อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สัญลักษณ์กลางเมืองที่มากกว่าแค่สถานที่ผ่านทาง

หากคุณเป็นคนกรุงเทพฯ หรือเคยเดินทางมายังกรุงเทพฯสักครั้ง โอกาสที่คุณจะเคยผ่านหรือยืนอยู่ ณ บริเวณ “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” นั้นมีสูงมาก เพราะที่นี่คือจุดตัดของถนนสายหลัก เป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งมวลชน และยังเป็นสถานที่ที่มีความหมายลึกซึ้งทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย

แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า อนุสาวรีย์แห่งนี้มีที่มาอย่างไร? ใครเป็นผู้ออกแบบ? ทำไมถึงตั้งอยู่ตรงนี้? และเหตุใดมันจึงกลายเป็น “หัวใจของกรุงเทพฯ” ทั้งในแง่การเดินทางและความทรงจำของคนไทย?

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเรื่องราวของ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่จุดกำเนิดในยุคสงคราม จนกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองหลวงในปัจจุบัน พร้อมแนะนำการเดินทางมายังพื้นที่นี้ และที่พักใกล้เคียงที่เดินถึงได้ในไม่กี่นาที

จุดกำเนิดของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สัญลักษณ์กลางเมืองที่มากกว่าแค่สถานที่ผ่านทาง

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2484 ตามพระราชดำริของจอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เพื่อรำลึกถึงทหาร ตำรวจ และพลเรือนไทยที่เสียชีวิตจาก กรณีพิพาทอินโดจีน กับฝรั่งเศสในช่วงปี พ.ศ. 2483 – 2484

การสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้ มีเจตนารมณ์เพื่อยกย่องความกล้าหาญและเสียสละของผู้ปกป้องแผ่นดินไทย โดยเฉพาะในบริบทของการรักษาอธิปไตยเหนือดินแดนที่ฝรั่งเศสได้ครอบครองไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง

"ชัยสมรภูมิ" ในชื่ออนุสาวรีย์ จึงหมายถึงชัยชนะจากสนามรบ เพื่อเกียรติประวัติของวีรบุรุษผู้พลีชีพ

อ่านต่อ : กรณีพิพาทอินโดจีน: เบื้องหลังสงครามไทย-ฝรั่งเศส และจุดกำเนิดของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

สถาปัตยกรรมและการออกแบบ

อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกออกแบบโดย หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modernist) ผสมผสานกับรูปแบบคลาสสิก มีลักษณะเป็นเสาหินสูงทรงแหลม ตรงกลางล้อมรอบด้วยรูปหล่อสัมฤทธิ์ของเหล่าทหารห้าทัพ (ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และพลเรือน)

ภายในเสาหินสูงนี้มี กล่องบรรจุกระดูกของทหารและเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นมากกว่าอนุสรณ์ — แต่มันคือ “สุสานของเกียรติยศ”

บริเวณโดยรอบออกแบบเป็นวงเวียนรูปดาวห้าแฉก ตัดกับถนนหลัก 5 สาย ได้แก่:

ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางการจราจร และการเดินทางเช่นเดิม

ความเปลี่ยนแปลงของอนุสาวรีย์ชัยฯ ในบริบทสังคม

จากอดีตที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นเพียงพื้นที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงคราม ย่านนี้ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ พลุกพล่านที่สุดของกรุงเทพฯ ทั้งด้าน:

ย่านนี้ยังเป็นพื้นที่ของการเคลื่อนไหวทางสังคม การชุมนุม การจัดกิจกรรม และการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

อนุสาวรีย์ชัยฯ จึงเป็นทั้ง "สถานที่ของความทรงจำ" และ "พื้นที่ของการเปลี่ยนแปลง" ในเวลาเดียวกัน

เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ตลอดระยะเวลากว่า 80 ปีที่ผ่านมา อนุสาวรีย์ชัยฯ ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่รำลึกเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของประเทศ เช่น:

อนุสาวรีย์แห่งนี้จึงไม่เคยหยุดนิ่ง แม้หน้าตาจะคงเดิม แต่บริบทของสังคมที่เปลี่ยนไปตลอดเวลาก็ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นกระจกสะท้อนความเป็นไปของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน

การเดินทางมายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

รถไฟฟ้า BTS:

ลงสถานี Victory Monument (อนุสาวรีย์ชัยฯ) แล้วออกทางออกที่ 3 หรือ 4

รถเมล์:

มีรถเมล์เกือบ 30 สายผ่านจุดนี้ เช่น สาย 8, 12, 28, 92, 140, 163, 514

รถตู้โดยสาร:

ที่นี่คือศูนย์กลางรถตู้ไปต่างจังหวัด เช่น อยุธยา รังสิต ชลบุรี นครปฐม ฯลฯ

เดินเท้า:

หากคุณพักในย่านราชปรารภหรือประตูน้ำ สามารถเดินถึงได้ใน ไม่เกิน 10 นาที

แนะนำที่พักใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ

หากคุณมองหาที่พักที่เดินจาก BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้ภายในไม่กี่นาที ขอแนะนำ โฮเทล แบงค็อกเกียน โรงแรมบูติกสไตล์โมเดิร์นในซอยราชปรารภ ที่ตั้งอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยฯ เพียง 400 เมตร เดินง่าย เดินสะดวก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเข้าถึงทั้งการเดินทางและบรรยากาศเมือง


สรุป: อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในสายตาคนไทยยุคใหม่

แม้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะมีรากฐานจากประวัติศาสตร์การสงคราม แต่ในปัจจุบัน มันคือสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหว ความคึกคัก และการเชื่อมโยงของคนเมือง

ที่นี่คือทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเดินทาง เป็นทั้งพื้นที่รำลึกและพื้นที่เปลี่ยนผ่าน เป็นแลนด์มาร์กที่สะท้อนภาพของกรุงเทพฯ อย่างชัดเจน

และหากคุณกำลังวางแผนมาเยือนกรุงเทพฯครั้งต่อไป อย่าลืมแวะไปยัง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วเดินทอดน่องต่อมายังย่านราชปรารภ ที่เต็มไปด้วยสีสันของคนกรุงในทุกจังหวะชีวิต

ตรวจสอบราคาและค้นหาห้องพัก

วันเดินทาง
0 - 6 ปี